เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม สุดยอดแห่งเซียนของวงการพระเครื่อง
ผู้ชำนาญการพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล เป็นความหมายของคำว่า เซียนพระ รวมทั้งเป็นตำแหน่งที่สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยแต่งตั้งขึ้นมา
เพื่อให้รับผิดชอบในการตัดสินพระเครื่องชุดต่างๆ ตั้งแต่ชุดพระเบญจภาคี ไปจนถึงจตุคามรามเทพที่มีการนำเข้าสู่สนามการประกวดรุ่นล่าสุด พระเบญจภาคี คือ การนำเอาพระเครื่องที่เป็นพระเครื่องชั้นยอดมารวมกัน ๕ องค์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิท่านหนึ่ง ในวงการพระเครื่องยุคแรก ที่วงการพระรู้จักท่านในนามปากกา "ตรียัมปวาย" เป็นผู้บัญญัติจัดตั้งขึ้น จนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป พระเบญจภาคี ๕ องค์ ประกอบด้วย พระสมเด็จ พระรอด พระซุ้มกอ พระนางพญา และ พระผงสุพรรณ สืบต่อมาความนิยมใน พระเครื่องมีมากขึ้น ทำให้
พระชุดเบญจภาคี ได้รับความนิยมสูง และเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ขณะเดียวกัน พระแต่ละองค์ในชุดเบญจภาคี ที่มีสภาพสวยงามจะต้องมีราคาเกินเลข ๗ หลักอย่างแน่นอน ถ้ารวมครบชุดแล้ว ราคาของพระชุดเบญจภาคีสวยๆ ชุดหนึ่งมิอาจจะประเมินเป็นตัวเลขได้ง่ายๆ กลายเป็นพระที่คนระดับเศรษฐี ผู้มีเงินทองมากสะสมเช่าหากัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักสะสมพระระดับชาวบ้านธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ มีโอกาสได้เป็นเจ้าของยาก แต่เมื่อศึกษาแล้วก็อยากจะมีโอกาสได้บูชาไว้บ้าง เพื่อเป็นสิริมงคล หรือเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ในกรรมการตัดสินพระทุกชุดที่ถือว่าสุดยอดที่สุดต้องยกให้กรรมการ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ประมาณ ๒๐ คน ทั้งนี้หากงานประกวดพระงานใดมีกรรมการตัดสินชุดเบญจภาคีไปร่วมงานไม่ต่ำกว่า ๑๕ คน ถือว่าเป็นงานที่มีคุณภาพ แต่ถ้ามีอยู่เกิน ๑๐ คน ถือว่าพอใช่ได้ ในขณะที่งานใดไปไม่ถึง ๑๐ คน ถือว่าเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพ และยิ่งงานใดไม่ปรากฏว่ามีกรรมการเซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยไปร่วมตัดสินเลย นอกจากเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพแล้วอาจจะเรียกว่าอยู่ในขั้นเลวเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้พระชุดเบญจภาคีที่ติดรางวัลจากสนามการประกวดที่ไม่มีกรรมการของสมาคมฯจึงไม่เป็นที่ยมรับเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสมคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยไม่ได้กำหนดผู้ที่เป็นกรรมการชุดเบญจภาคีเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เป็นที่รู้ๆ กันมนวงการพระเครื่องว่า กรรมการชุดนี้มีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ๑.ต้องสร้างและสมบารมี เป็นที่เคารพนับถือศรัทธา ไม่มีชื่อเสียงด่างพร้อยในการเช่าซื้อพระชุดเบญจภาคี ๒.รู้จริง ซื้อจริง และขายจริงอยู่ในสนามพระเครื่องปัจจุบัน
๓.เป็นคนที่มีฐานะมีเงินพอสมควร กล่าวคือมีเงินมากพอที่จะซื้อพระชุดเบญจภาคีได้ เมื่อใครมาขายถ้าเป็นของแท้ต้องกล้ารับซื้อไว้ การซื้อขายเป็นเครื่องยืนยันความสามารถอย่างหนึ่งของความเชี่ยวชาญในพระรุ่นนั้นๆ ถ้ามีมากไม่พอต้องเป็นคนมีเครดิตที่จะระดมเงินมาซื้อพระชุดเบญจภาคคีและ ๔.ต้องมีเซียนพระเบญจภาคีรุ่นพี่รับรองในความสามารถ
ปัจจุบันนี้ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม อายุมากที่สุด คือ นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ในวางการพระเครื่องไม่ต่ำกว่า ๔๐ ปีที่มาอายุรองลงมา คือ นายประจำ อยู่อรุณ นายกิติ ธรรมจรัส หรือ เฮียกวง (สามล้อ )อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยนายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ หรือ ตี๋เหล้าประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์นาย วิชัย อุทัยสุทธิกิจ หรือ ลิ้ม กรุงไทย อนุศักดิ์นารถกุลพัฒน์ หรือ เฮียอ้า สุพรรณ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
นายสมภพ ไทยธีระเสถียร หรือ อั๊ง เมืองชล พ.ต.อ.(พิเศษ) กิตติ รอดบางยาง นายเชิดชัย เสตสุวรรณ (ง้ำ) ฯลฯ ส่วนที่หนุ่มสุดต้องยกให้นายเสมอ งิ้วงาม หรือ ป๋อง สุพรรณ เลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยแต่ถ้าเป็นเซียนที่มีชื่อมากที่สุดในชุนี้ต้องยกให้นายพิศาลเตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือที่รู้จักกันในนาม หรือเจ้าของฉายาต้อย เมืองนนท์
กรรมการตัดสินพระที่คุ้นหน้ากันเป็นมากพิเศษต้องยกนิ้วให้กรรมการตัดสินพระชุดเบญจภาคี ไม่ว่าเป็น อ้า สุพรรณ กวง ท่าพระจันทร์ ต้อย เมืองนนท์ ประจำ อู่อรุณ สำราญ บางแค ราม วัชรประดิษฐ์ และป๋อง สุพรรณ กรรมการชุดนี้มีด้วยกันทั้งหมดกว่า ๑๐ คน ซึ่งนานๆ ครั้งจะครบองค์ประชุมสักที การตัดสินพระชุดเบญจภาคีนั้นพิเศษกว่าการตัดสินพระชุดอื่นๆ คือ จะแบ่งกรรมการออกเป็น ๒ โต๊ะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดของการตัดสินนี่คือความเห็นของนายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย
นายวันชัย ยังบอกด้วยว่า งานประกวดบางงานมูลค่าพระที่ส่งเข้าประกวดนั้น เฉพาะชุด เบญจภาคีโต๊ะ เดียวอาจจะสูงถึงหลายร้อยล้านบาท ดังนั้นต้อง ใช้ความระมัดระวัง เป็นพิเศษ พลาดไม่ได้ เพราะเป็นการชี้เป็นชี้ตาย พระองค์นั้นๆ เลยทีเดียว ว่ากันว่ากว่าจะขึ้นมาเป็นกรรมการตัดสิน พระรายการใดรายการหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่าย กรรมการหลายท่านต้องไต่เต้ามาจาก เด็กถือถาดส่งพระเลยทีเดียว และกว่าจะเป็นที่ยอมรับของกรรมการด้วยกันแล้วยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกรรมการผู้ตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคีล้วนเป็นผู้ที่มากด้วยความสามารถทั้งสิ้นแต่ในจำวนนี้มีอยู่ประมาณ ๑๐ คน ที่เคยเช่าและเคยให้เช่าพระสมเด็จองคะไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาท เช่น ต้อย เมืองนนท์ อ้า สุพรรณ กิตติ ธรรมจรัส ประจำ อู่อรุณ อั๊ง เมืองชล พ.ต.อ.(พิเศษ) กิตติ รอดบางยาง และป๋องสุพรรณ เป็นต้น เซียนพระเหล่านนี้จะขึ้นชื่อว่า กล้าซื้อพระสมเด็จแพงและก็มีลูกค้าที่จะซื้อแพงๆ ด้วย ขณะเดียวกันเมือให้เช่าออกไปแล้วหากผู้เช่าไม่พอใจก็เอาพระกลับมาคืนแล้วเอาเงินกลับไปได้
นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่คนนอกวงการระไม่รู้คือ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม แม้ว่าจะมีชำนาญการเพียงใดก็เคยโดน ซึ่งหมายถึงเช่าพระปลอมมาแล้วกันทุกคน จะโดนมากโดนน้อยนั้นมีอยู่หลายเหตุปัจจัย แต่เซียนเหล่านนี้มีข้อยึดถืออยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อโดนแล้วต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง คือ ซื้อพระปลอดแต่ไม่ยอมขายพระปลอม โดนในราคาหลักแสนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เคยมี เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ท่านหนึ่งเช่าพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ในราคาสูงกว่า ๓ ล้านบาท และปัจจุบันนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว พระองค์ดังกล่าวก็ไม่ได้มีการขายต่อซึ่งตายไปพร้อมๆ กับท่าน"เหตุที่เซียนพระขายพระได้ราคาแพงมากกว่าชาวบ้านทั่วๆ เพราะเซียนพระกล้ารับประกันความแท้ตลอดชาติ ถ้าไม่พอใจเช่าไปแล้ววันหลังเอาพระมาคืนแล้วก็เอาเงินกับไป แต่ถ้าซื้อจากชาวบ้านหากเป็นพระปลอมก็ตามหาตัวเพื่อคืนพระไม่ได้ เซียนก็ต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง" นายวันชัยกล่าว
ปัจจุบันนี้ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม อายุมากที่สุด คือ นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ในวางการพระเครื่องไม่ต่ำกว่า ๔๐ ปีที่มาอายุรองลงมา คือ นายประจำ อยู่อรุณ นายกิติ ธรรมจรัส หรือ เฮียกวง (สามล้อ )อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยนายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ หรือ ตี๋เหล้าประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์นาย วิชัย อุทัยสุทธิกิจ หรือ ลิ้ม กรุงไทย อนุศักดิ์นารถกุลพัฒน์ หรือ เฮียอ้า สุพรรณ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายสมภพ ไทยธีระเสถียร หรือ อั๊ง เมืองชล
เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัส,โกเนี้ยว สำโรง, ประจำ อู่อรุณ, กิติ ธรรมจรัส, พ.ต.อ.จิตติ รอดบางยาง, จั๊ว ตลาดพลู, อ้า สุพรรณ, สำราญ บางแค, วัฒน์ บางแค, ป๋อง สุพรรณ และยี่ บางแค
ผู้ชำนาญการพระเครื่อง พระบูชา วัตถุมงคล เป็นความหมายของคำว่า เซียนพระ รวมทั้งเป็นตำแหน่งที่สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยแต่งตั้งขึ้นมา
เพื่อให้รับผิดชอบในการตัดสินพระเครื่องชุดต่างๆ ตั้งแต่ชุดพระเบญจภาคี ไปจนถึงจตุคามรามเทพที่มีการนำเข้าสู่สนามการประกวดรุ่นล่าสุด พระเบญจภาคี คือ การนำเอาพระเครื่องที่เป็นพระเครื่องชั้นยอดมารวมกัน ๕ องค์ โดยผู้ทรงคุณวุฒิท่านหนึ่ง ในวงการพระเครื่องยุคแรก ที่วงการพระรู้จักท่านในนามปากกา "ตรียัมปวาย" เป็นผู้บัญญัติจัดตั้งขึ้น จนเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป พระเบญจภาคี ๕ องค์ ประกอบด้วย พระสมเด็จ พระรอด พระซุ้มกอ พระนางพญา และ พระผงสุพรรณ สืบต่อมาความนิยมใน พระเครื่องมีมากขึ้น ทำให้
พระชุดเบญจภาคี ได้รับความนิยมสูง และเป็นที่ต้องการอย่างมาก
ขณะเดียวกัน พระแต่ละองค์ในชุดเบญจภาคี ที่มีสภาพสวยงามจะต้องมีราคาเกินเลข ๗ หลักอย่างแน่นอน ถ้ารวมครบชุดแล้ว ราคาของพระชุดเบญจภาคีสวยๆ ชุดหนึ่งมิอาจจะประเมินเป็นตัวเลขได้ง่ายๆ กลายเป็นพระที่คนระดับเศรษฐี ผู้มีเงินทองมากสะสมเช่าหากัน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักสะสมพระระดับชาวบ้านธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ มีโอกาสได้เป็นเจ้าของยาก แต่เมื่อศึกษาแล้วก็อยากจะมีโอกาสได้บูชาไว้บ้าง เพื่อเป็นสิริมงคล หรือเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ในกรรมการตัดสินพระทุกชุดที่ถือว่าสุดยอดที่สุดต้องยกให้กรรมการ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ซึ่งปัจจุบันนี้มีอยู่ประมาณ ๒๐ คน ทั้งนี้หากงานประกวดพระงานใดมีกรรมการตัดสินชุดเบญจภาคีไปร่วมงานไม่ต่ำกว่า ๑๕ คน ถือว่าเป็นงานที่มีคุณภาพ แต่ถ้ามีอยู่เกิน ๑๐ คน ถือว่าพอใช่ได้ ในขณะที่งานใดไปไม่ถึง ๑๐ คน ถือว่าเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพ และยิ่งงานใดไม่ปรากฏว่ามีกรรมการเซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยไปร่วมตัดสินเลย นอกจากเป็นงานที่ไม่มีคุณภาพแล้วอาจจะเรียกว่าอยู่ในขั้นเลวเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้พระชุดเบญจภาคีที่ติดรางวัลจากสนามการประกวดที่ไม่มีกรรมการของสมาคมฯจึงไม่เป็นที่ยมรับเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตามแม้ว่าสมคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยไม่ได้กำหนดผู้ที่เป็นกรรมการชุดเบญจภาคีเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เป็นที่รู้ๆ กันมนวงการพระเครื่องว่า กรรมการชุดนี้มีคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ๑.ต้องสร้างและสมบารมี เป็นที่เคารพนับถือศรัทธา ไม่มีชื่อเสียงด่างพร้อยในการเช่าซื้อพระชุดเบญจภาคี ๒.รู้จริง ซื้อจริง และขายจริงอยู่ในสนามพระเครื่องปัจจุบัน
๓.เป็นคนที่มีฐานะมีเงินพอสมควร กล่าวคือมีเงินมากพอที่จะซื้อพระชุดเบญจภาคีได้ เมื่อใครมาขายถ้าเป็นของแท้ต้องกล้ารับซื้อไว้ การซื้อขายเป็นเครื่องยืนยันความสามารถอย่างหนึ่งของความเชี่ยวชาญในพระรุ่นนั้นๆ ถ้ามีมากไม่พอต้องเป็นคนมีเครดิตที่จะระดมเงินมาซื้อพระชุดเบญจภาคคีและ ๔.ต้องมีเซียนพระเบญจภาคีรุ่นพี่รับรองในความสามารถ
ปัจจุบันนี้ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม อายุมากที่สุด คือ นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ในวางการพระเครื่องไม่ต่ำกว่า ๔๐ ปีที่มาอายุรองลงมา คือ นายประจำ อยู่อรุณ นายกิติ ธรรมจรัส หรือ เฮียกวง (สามล้อ )อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยนายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ หรือ ตี๋เหล้าประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์นาย วิชัย อุทัยสุทธิกิจ หรือ ลิ้ม กรุงไทย อนุศักดิ์นารถกุลพัฒน์ หรือ เฮียอ้า สุพรรณ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย
นายสมภพ ไทยธีระเสถียร หรือ อั๊ง เมืองชล พ.ต.อ.(พิเศษ) กิตติ รอดบางยาง นายเชิดชัย เสตสุวรรณ (ง้ำ) ฯลฯ ส่วนที่หนุ่มสุดต้องยกให้นายเสมอ งิ้วงาม หรือ ป๋อง สุพรรณ เลขานุการสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยแต่ถ้าเป็นเซียนที่มีชื่อมากที่สุดในชุนี้ต้องยกให้นายพิศาลเตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือที่รู้จักกันในนาม หรือเจ้าของฉายาต้อย เมืองนนท์
กรรมการตัดสินพระที่คุ้นหน้ากันเป็นมากพิเศษต้องยกนิ้วให้กรรมการตัดสินพระชุดเบญจภาคี ไม่ว่าเป็น อ้า สุพรรณ กวง ท่าพระจันทร์ ต้อย เมืองนนท์ ประจำ อู่อรุณ สำราญ บางแค ราม วัชรประดิษฐ์ และป๋อง สุพรรณ กรรมการชุดนี้มีด้วยกันทั้งหมดกว่า ๑๐ คน ซึ่งนานๆ ครั้งจะครบองค์ประชุมสักที การตัดสินพระชุดเบญจภาคีนั้นพิเศษกว่าการตัดสินพระชุดอื่นๆ คือ จะแบ่งกรรมการออกเป็น ๒ โต๊ะ เพื่อป้องกันความผิดพลาดของการตัดสินนี่คือความเห็นของนายวันชัย สอนมีทอง ประธานฝ่ายประสานงานสื่อมวลชนสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย
นายวันชัย ยังบอกด้วยว่า งานประกวดบางงานมูลค่าพระที่ส่งเข้าประกวดนั้น เฉพาะชุด เบญจภาคีโต๊ะ เดียวอาจจะสูงถึงหลายร้อยล้านบาท ดังนั้นต้อง ใช้ความระมัดระวัง เป็นพิเศษ พลาดไม่ได้ เพราะเป็นการชี้เป็นชี้ตาย พระองค์นั้นๆ เลยทีเดียว ว่ากันว่ากว่าจะขึ้นมาเป็นกรรมการตัดสิน พระรายการใดรายการหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่าย กรรมการหลายท่านต้องไต่เต้ามาจาก เด็กถือถาดส่งพระเลยทีเดียว และกว่าจะเป็นที่ยอมรับของกรรมการด้วยกันแล้วยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกรรมการผู้ตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคีล้วนเป็นผู้ที่มากด้วยความสามารถทั้งสิ้นแต่ในจำวนนี้มีอยู่ประมาณ ๑๐ คน ที่เคยเช่าและเคยให้เช่าพระสมเด็จองคะไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาท เช่น ต้อย เมืองนนท์ อ้า สุพรรณ กิตติ ธรรมจรัส ประจำ อู่อรุณ อั๊ง เมืองชล พ.ต.อ.(พิเศษ) กิตติ รอดบางยาง และป๋องสุพรรณ เป็นต้น เซียนพระเหล่านนี้จะขึ้นชื่อว่า กล้าซื้อพระสมเด็จแพงและก็มีลูกค้าที่จะซื้อแพงๆ ด้วย ขณะเดียวกันเมือให้เช่าออกไปแล้วหากผู้เช่าไม่พอใจก็เอาพระกลับมาคืนแล้วเอาเงินกลับไปได้
นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่คนนอกวงการระไม่รู้คือ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม แม้ว่าจะมีชำนาญการเพียงใดก็เคยโดน ซึ่งหมายถึงเช่าพระปลอมมาแล้วกันทุกคน จะโดนมากโดนน้อยนั้นมีอยู่หลายเหตุปัจจัย แต่เซียนเหล่านนี้มีข้อยึดถืออยู่อย่างหนึ่ง คือ เมื่อโดนแล้วต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง คือ ซื้อพระปลอดแต่ไม่ยอมขายพระปลอม โดนในราคาหลักแสนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เคยมี เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม ท่านหนึ่งเช่าพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ในราคาสูงกว่า ๓ ล้านบาท และปัจจุบันนี้ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว พระองค์ดังกล่าวก็ไม่ได้มีการขายต่อซึ่งตายไปพร้อมๆ กับท่าน"เหตุที่เซียนพระขายพระได้ราคาแพงมากกว่าชาวบ้านทั่วๆ เพราะเซียนพระกล้ารับประกันความแท้ตลอดชาติ ถ้าไม่พอใจเช่าไปแล้ววันหลังเอาพระมาคืนแล้วก็เอาเงินกับไป แต่ถ้าซื้อจากชาวบ้านหากเป็นพระปลอมก็ตามหาตัวเพื่อคืนพระไม่ได้ เซียนก็ต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง" นายวันชัยกล่าว
ปัจจุบันนี้ เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม อายุมากที่สุด คือ นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัสดิ์ ซึ่งอยู่ในวางการพระเครื่องไม่ต่ำกว่า ๔๐ ปีที่มาอายุรองลงมา คือ นายประจำ อยู่อรุณ นายกิติ ธรรมจรัส หรือ เฮียกวง (สามล้อ )อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยนายศุภชัย เรืองสรรงามศิริ หรือ ตี๋เหล้าประธานชมรมพระเครื่องท่าพระจันทร์นาย วิชัย อุทัยสุทธิกิจ หรือ ลิ้ม กรุงไทย อนุศักดิ์นารถกุลพัฒน์ หรือ เฮียอ้า สุพรรณ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย นายสมภพ ไทยธีระเสถียร หรือ อั๊ง เมืองชล
เซียนตัดสินพระเบญจภาคี สากล นิยม นายวิวัฒน์ เรืองพรสวัส,โกเนี้ยว สำโรง, ประจำ อู่อรุณ, กิติ ธรรมจรัส, พ.ต.อ.จิตติ รอดบางยาง, จั๊ว ตลาดพลู, อ้า สุพรรณ, สำราญ บางแค, วัฒน์ บางแค, ป๋อง สุพรรณ และยี่ บางแค
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณาใช้คำสุภาพเเละไม่ใช้คำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเเก่ส่วนรวมเเละบุคคลอื่นขอบคุณครับ