รังพระเบญจภาคี ปัจจุบัน อดีต
"รังพระ" เป็นคำศัพท์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หมายถึง ผู้ที่นิยมชื่นชมสะสมวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ
ความหมายของ "รังพระ" นั้น จะต้องเป็นผู้ที่สะสมจำนวนมากพอสมควร ไม่จำกัดเฉพาะพระเก่าเท่านั้น ผู้ที่สะสมพระใหม่ก็เรียกว่าเป็นเจ้าของรังพระได้เช่นกัน
สำหรับ "รังพระ" ที่ขึ้นชื่อของวงการพระเครื่องในปัจจุบัน ซึ่งมูลค่าของพระบางรังอาจจะสูงถึงหลักพันล้าน เช่น รังพระของไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ หรือ "โป๊ยเสี่ย" เจ้าของ พระสมเด็จองค์ลุงพุฒิ (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) รังพระของปรีดา อภิปุญญา หรือ "เฮียหนึ่ง" เจ้าของพระสมเด็จองค์ครูเอื้อ (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) รังพระของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือที่รู้จักกันในนาม "เสี่ยหนู ชิโนไทย" รังพระของ ส.ส.ชาญชัย ปทุมารักษ์ เจ้าของรังพระใหญ่แห่งเมืองนครปฐม
รังพระของ ส.ส.นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รังพระของนายสุชาติ สหัสโชติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รังพระของนายพิศาล เตชะวิภาค หรือที่รู้จักกันดีในนาม ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รังพระของนายสุเทพ จิรวัฒน์สุนทร หรือเจ้าของฉายาที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องว่า “เทพ กำแพง”
ส่วนเจ้าของรังพระคนล่าสุดแห่งวงการพระเครื่อง คือ นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี” หรือ เสี่ยวิชัย ซึ่งในช่วง ๖ เดือน ของปี ๒๕๕๒ ที่ผ่าน น่าจะมีพระเครื่องย้ายเข้าอยู่ในรังเสี่ยวิชัยไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านบาท มีพระเครื่องชั้นนำองค์ที่เป็นตำนานเข้าไปอยู่ในรังของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี โดยผ่านสายตาการคัดกรองของ นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือ “ต้อย เมืองนนท์” และ นายมงคล เมฆมานะ คณะกรรมการตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคี หรือ โกเนี้ยว สำโรง
พระเครื่ององค์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระดังในตำนานที่ย้ายเข้าไปอยู่ในรังของเสี่ยวิชัย เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ "องค์เปาบุ้นจิ้น" เช่าไปในราคา ๒๕ ล้านบาท พระสมเด็จที่ บริษัท บางกอก อ๊อกชั่น เฮาส์ จำกัด เปิดการประมูลพระเครื่องและผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังในเมืองไทย เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๕ ที่ห้องนิทรรศการชั้น ๔ เดอะ สีลม แกลเลอเรีย ในครั้งนั้นมีผู้ประมูลไป ๒๔ ล้านบาท ก็ย้ายมาอยู่ในรังของเสี่ยวิชัย รวมทั้งพระรอด กรุวัดมหาวัน ลำพูน พิมพ์ใหญ่ องค์ประวัติศาสตร์ที่เคยอยู่กับเสี่ยพรทัศน์ บูรณปกรณ์ คนวงการคุ้นหน้าตาพระองค์นี้ดี บัดนี้ได้เปลี่ยนมือไปอยู่ในรังของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี ในราคา ๑๓ ล้านบาท
นอกจากนี้ นายวิชัยยังได้เช่าพระเครื่ององค์ที่เป็นตำนานอีกหลายองค์ เช่น พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็ก ที่ขึ้นชื่อว่าหายากสุดๆ พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เช่ามาในราคาประมาณ ๗ ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ของคุณอดุลย์ หงษ์จินตกุล ราคา ๒๐ ล้านบาท
และที่สุดยอดอีกองค์หนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม พ.ศ.๒๕๐๐ แต่องค์ดังกล่าวเป็นองค์ที่สวยสมบูรณ์สุด ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นภาพพระโชว์เมื่อครั้งเปิดกรุใหม่ๆ ก็ย้ายไปอยู่ในรังของนายวิชัยในราคา ๕ ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เทพ กำแพง จะขึ้นชื่อว่า "จอมเทคโอเวอร์รังพระแห่งยุค" และถือว่าเป็นเจ้าของรังพระคนหนึ่งของวงการพระเครื่อง ทั้งนี้ เทพ กำแพง ได้พูดถึงสัจธรรมของการเป็นเจ้าของรังพระไว้อย่างน่าคิดว่า
“สมบัติผลัดกันชม ทุกอย่างมันเป็นวัฏจักร อย่างกับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง และดับลงในบั้นปลาย อย่าไปยึดติดว่าพระเครื่องจะเป็นของเรา และอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ให้คิดเสียว่า เป็นสมบัติผลัดกันชม เป็นทรัพย์เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกทางพุทธศาสนา ผมไม่เชื่อว่า จะมีรังพระไหนเป็นอมตะตลอดกาล วันนี้ผมมีแรงไปเทคโอเวอร์รังพระคนอื่น วันหน้าคลื่นลูกใหม่มาแรง รังพระของเทพ กำแพงก็ต้องแตกรังเหมือนกับรังพระที่แตกรังทุกๆ ปี วันนี้พระอยู่กับเรา วันหน้าย่อมเปลี่ยนมือ พระหลายองค์เปลี่ยนมือองค์ละหลายๆ ครั้ง และทุกครั้งราคาเพิ่มขึ้นตลอด”
รังพระเบญจภาคีอดีต
ตำนานแห่งรังพระในอดีต ที่มีชื่อเสียงมีอยู่ ๔ รังใหญ่ๆ คือ ๑.รังพระของครูเอื้อ สุนทรสนาน เจ้าของตำนานพระสมเด็จองค์ครูเอื้อ (พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) ๒.รังพระของเจ้แจ๋ว เจ้าของสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์เจ้แจ๋ว
๓.รังพระของท่านลพ ซึ่งเป็นพระภิกษุ ถือว่าเป็นรังที่มีพระพุทธรูปบูชาที่เก่าแก่จำนวนมาก และ ๔.รังพระของคุณฉ่าหลี ยงสุนทร อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นเจ้าของรังพระที่รู้จักกันดีในวงการพระโบราณ มีพระชุดเบญจภาคีชั้นนำอยู่นับสิบองค์ เช่น เจ้าของพระสมเด็จ วัดระฆัง องค์ลุงพุฒิ (ปัจจุบันอยู่กับโป๊ยเสี่ย) พระสมเด็จองค์ขุนศรี (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) การสะสมพระในอดีตนั้นมีไม่มาก ทำให้ผู้สะสมมีพระให้ซื้อสะสมจำนวนมาก และราคาก็ไม่แพง
นอกจากนี้แล้ว เจ้าของรังพระที่มีชื่อเสียง แต่ปัจจุบันกลายเป็นตำนานไปแล้วเช่นกัน คือ รังพระของเสถียร เสถียรสุต รังพระของอุดม กวัสราภรณ์ รังพระของชลอ รับทอง รังพระของมนตรี วงศ์วิรัช รังพระของอาจารย์นิยม อสุนี ณ อยุธยา รังพระของ เชาว์ ริเวอร์ แตกรังเมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมา รังพระของ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร และรังพระของกำนันชูชาติ มากสัมพันธ์
"อย่าไปยึดติดว่า พระเครื่องจะเป็นของเรา และอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ให้คิดเสียว่า เป็นสมบัติผลัดกันชม เป็นทรัพย์เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกทางพุทธศาสนา ผมไม่เชื่อว่า จะมีรังพระไหนเป็นอมตะตลอดกาล"
"รังพระ" เป็นคำศัพท์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ หมายถึง ผู้ที่นิยมชื่นชมสะสมวัตถุมงคล ทั้งพระเครื่อง พระบูชา เหรียญคณาจารย์ รวมทั้งวัตถุมงคลอื่นๆ
ความหมายของ "รังพระ" นั้น จะต้องเป็นผู้ที่สะสมจำนวนมากพอสมควร ไม่จำกัดเฉพาะพระเก่าเท่านั้น ผู้ที่สะสมพระใหม่ก็เรียกว่าเป็นเจ้าของรังพระได้เช่นกัน
สำหรับ "รังพระ" ที่ขึ้นชื่อของวงการพระเครื่องในปัจจุบัน ซึ่งมูลค่าของพระบางรังอาจจะสูงถึงหลักพันล้าน เช่น รังพระของไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ หรือ "โป๊ยเสี่ย" เจ้าของ พระสมเด็จองค์ลุงพุฒิ (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) รังพระของปรีดา อภิปุญญา หรือ "เฮียหนึ่ง" เจ้าของพระสมเด็จองค์ครูเอื้อ (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) รังพระของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือที่รู้จักกันในนาม "เสี่ยหนู ชิโนไทย" รังพระของ ส.ส.ชาญชัย ปทุมารักษ์ เจ้าของรังพระใหญ่แห่งเมืองนครปฐม
รังพระของ ส.ส.นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ รังพระของนายสุชาติ สหัสโชติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รังพระของนายพิศาล เตชะวิภาค หรือที่รู้จักกันดีในนาม ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย รังพระของนายสุเทพ จิรวัฒน์สุนทร หรือเจ้าของฉายาที่รู้จักกันดีในวงการพระเครื่องว่า “เทพ กำแพง”
ส่วนเจ้าของรังพระคนล่าสุดแห่งวงการพระเครื่อง คือ นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เจ้าของฉายา “เจ้าพ่อดิวตี้ฟรี” หรือ เสี่ยวิชัย ซึ่งในช่วง ๖ เดือน ของปี ๒๕๕๒ ที่ผ่าน น่าจะมีพระเครื่องย้ายเข้าอยู่ในรังเสี่ยวิชัยไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ล้านบาท มีพระเครื่องชั้นนำองค์ที่เป็นตำนานเข้าไปอยู่ในรังของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี โดยผ่านสายตาการคัดกรองของ นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือ “ต้อย เมืองนนท์” และ นายมงคล เมฆมานะ คณะกรรมการตัดสินพระเครื่องชุดเบญจภาคี หรือ โกเนี้ยว สำโรง
พระเครื่ององค์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระดังในตำนานที่ย้ายเข้าไปอยู่ในรังของเสี่ยวิชัย เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ "องค์เปาบุ้นจิ้น" เช่าไปในราคา ๒๕ ล้านบาท พระสมเด็จที่ บริษัท บางกอก อ๊อกชั่น เฮาส์ จำกัด เปิดการประมูลพระเครื่องและผลงานศิลปะของศิลปินชื่อดังในเมืองไทย เมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๔๕ ที่ห้องนิทรรศการชั้น ๔ เดอะ สีลม แกลเลอเรีย ในครั้งนั้นมีผู้ประมูลไป ๒๔ ล้านบาท ก็ย้ายมาอยู่ในรังของเสี่ยวิชัย รวมทั้งพระรอด กรุวัดมหาวัน ลำพูน พิมพ์ใหญ่ องค์ประวัติศาสตร์ที่เคยอยู่กับเสี่ยพรทัศน์ บูรณปกรณ์ คนวงการคุ้นหน้าตาพระองค์นี้ดี บัดนี้ได้เปลี่ยนมือไปอยู่ในรังของเจ้าพ่อดิวตี้ฟรี ในราคา ๑๓ ล้านบาท
นอกจากนี้ นายวิชัยยังได้เช่าพระเครื่ององค์ที่เป็นตำนานอีกหลายองค์ เช่น พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็ก ที่ขึ้นชื่อว่าหายากสุดๆ พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เช่ามาในราคาประมาณ ๗ ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์ของคุณอดุลย์ หงษ์จินตกุล ราคา ๒๐ ล้านบาท
และที่สุดยอดอีกองค์หนึ่ง แม้ว่าจะเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม พ.ศ.๒๕๐๐ แต่องค์ดังกล่าวเป็นองค์ที่สวยสมบูรณ์สุด ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นภาพพระโชว์เมื่อครั้งเปิดกรุใหม่ๆ ก็ย้ายไปอยู่ในรังของนายวิชัยในราคา ๕ ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เทพ กำแพง จะขึ้นชื่อว่า "จอมเทคโอเวอร์รังพระแห่งยุค" และถือว่าเป็นเจ้าของรังพระคนหนึ่งของวงการพระเครื่อง ทั้งนี้ เทพ กำแพง ได้พูดถึงสัจธรรมของการเป็นเจ้าของรังพระไว้อย่างน่าคิดว่า
“สมบัติผลัดกันชม ทุกอย่างมันเป็นวัฏจักร อย่างกับหลักธรรมที่ว่า เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง และดับลงในบั้นปลาย อย่าไปยึดติดว่าพระเครื่องจะเป็นของเรา และอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ให้คิดเสียว่า เป็นสมบัติผลัดกันชม เป็นทรัพย์เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกทางพุทธศาสนา ผมไม่เชื่อว่า จะมีรังพระไหนเป็นอมตะตลอดกาล วันนี้ผมมีแรงไปเทคโอเวอร์รังพระคนอื่น วันหน้าคลื่นลูกใหม่มาแรง รังพระของเทพ กำแพงก็ต้องแตกรังเหมือนกับรังพระที่แตกรังทุกๆ ปี วันนี้พระอยู่กับเรา วันหน้าย่อมเปลี่ยนมือ พระหลายองค์เปลี่ยนมือองค์ละหลายๆ ครั้ง และทุกครั้งราคาเพิ่มขึ้นตลอด”
รังพระเบญจภาคีอดีต
ตำนานแห่งรังพระในอดีต ที่มีชื่อเสียงมีอยู่ ๔ รังใหญ่ๆ คือ ๑.รังพระของครูเอื้อ สุนทรสนาน เจ้าของตำนานพระสมเด็จองค์ครูเอื้อ (พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) ๒.รังพระของเจ้แจ๋ว เจ้าของสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์เจ้แจ๋ว
๓.รังพระของท่านลพ ซึ่งเป็นพระภิกษุ ถือว่าเป็นรังที่มีพระพุทธรูปบูชาที่เก่าแก่จำนวนมาก และ ๔.รังพระของคุณฉ่าหลี ยงสุนทร อดีตข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ถือว่าเป็นเจ้าของรังพระที่รู้จักกันดีในวงการพระโบราณ มีพระชุดเบญจภาคีชั้นนำอยู่นับสิบองค์ เช่น เจ้าของพระสมเด็จ วัดระฆัง องค์ลุงพุฒิ (ปัจจุบันอยู่กับโป๊ยเสี่ย) พระสมเด็จองค์ขุนศรี (พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่) การสะสมพระในอดีตนั้นมีไม่มาก ทำให้ผู้สะสมมีพระให้ซื้อสะสมจำนวนมาก และราคาก็ไม่แพง
นอกจากนี้แล้ว เจ้าของรังพระที่มีชื่อเสียง แต่ปัจจุบันกลายเป็นตำนานไปแล้วเช่นกัน คือ รังพระของเสถียร เสถียรสุต รังพระของอุดม กวัสราภรณ์ รังพระของชลอ รับทอง รังพระของมนตรี วงศ์วิรัช รังพระของอาจารย์นิยม อสุนี ณ อยุธยา รังพระของ เชาว์ ริเวอร์ แตกรังเมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมา รังพระของ พล.ต.อ.สนอง วัฒนวรางกูร และรังพระของกำนันชูชาติ มากสัมพันธ์
"อย่าไปยึดติดว่า พระเครื่องจะเป็นของเรา และอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ให้คิดเสียว่า เป็นสมบัติผลัดกันชม เป็นทรัพย์เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นมรดกทางพุทธศาสนา ผมไม่เชื่อว่า จะมีรังพระไหนเป็นอมตะตลอดกาล"
3 ความคิดเห็น:
ถูกต้องนะคร้าบบบ
องค์นี้เคยเห็นองจริงแล้ว..ปล่อยไม่ได้ราคาไม่ลงตัวเจ้าองพรได้๕ล้านที่เหลือบวนแห่เอาเจ้าของเลยไม่ปล่อย...
พระสมเด็จวัดเกศไชโย 9 ชั้นเปิดให้เช่า200ล้านบาท แบ่งปันครับค่าจัดหา30%ครับhttp://www.facebook.com/media/set/?set=a.105028376327331.11342.100004605068072&type=1&l=f9e5a7d663
แสดงความคิดเห็น
กรุณาใช้คำสุภาพเเละไม่ใช้คำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเเก่ส่วนรวมเเละบุคคลอื่นขอบคุณครับ