สมาน คลองสาม
ในวงการผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาในประเทศเมืองไทยท่านอาจารย์สมาน คลองสาม หรือ สมาน บุญเพ็ญ ถือว่าจัดอยู่ชั้นแนวหน้าในฐานะ เซียนพระรุ่นใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญพระเครื่องตัวจริง เสียงจริง ทุกครั้งหากมีการประกวดพระเครื่อง พระสวย-พระแท้งานใหญ่ ๆ ทั่วประเทศไทย มักปรากฏชื่ออาจารย์สมาน คลองสาม ผู้นี้เป็นหนึ่งในกรรมการชุด “พระเนื้อผงยอดนิยม” ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทยด้วยเสมอ
อาจารย์ สมาน คลองสาม คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง ๓๐ ปีกว่ามาแล้วนะ อาจารย์ สมาน คลองสาม บอกว่าผมคร่ำหวอดและคลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง พระบูชาและวัตถุมงคล ผมเล่นพระเพราะใจรัก ชอบศึกษาศิลปะและเข้าใจถึงคุณค่าวัตถุโบราณอย่างลึกซึ้ง สิ่งเหล่านี้เป็นมรดกไปจนชั่วลูกชั่วหลานของเรา สมาน คลองสาม หรือ เฮียหมาน ของน้อง ๆ ในวงการพระเครื่องเปิดฉากการสนทนา
ก่อนรำลึกความหลังให้ฟังว่า เดิมทีผมเป็น ช่างซ่อมรถยนต์ เปิดอู่เป็นกิจการของตัวเอง บังเอิญมี พี่เขยชื่นชอบพระ จุดนี้เองเป็นแรงบันดาลใจให้ อาจารย์ สมาน คลองสาม หันมาเป็นเซียนพระอย่างเต็มตัว และอาชีพการซื้อขายพระก็ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบาย แต่คุณจะต้องซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อวิชาชีพ มีจริยธรรม คุณธรรม ด้วยนะ หากทำได้ ความเชื่อถือและศรัทธาก็จะมาเอง ตรงนี้สำคัญมาก
อาจารย์ สมาน คลองสาม กล่าวว่าแรกเริ่มคุณอยากเป็นเซียนพระ อยากเก่งเรื่องพระ จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอ อย่างผมสนใจพระเนื้อผงยอดนิยม ก็ศึกษาและค้นคว้ามานานพอสมควร จนดูเป็นหมดทุกอย่างนะ เช่น ชุดเบญจภาคี สมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ สมเด็จบางขุนพรหมทุกพิมพ์ สมเด็จเกศไชโยทุกพิมพ์ พระวัดปากน้ำทุกรุ่นทุกพิมพ์ พระหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ทุกรุ่นทุกพิมพ์ หลังจากชำนาญพระเนื้อผงทุกประเภทแล้ว ก็หันไปศึกษาพระเนื้อดินอย่าง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระกำแพงเนื้อดิน สุโขทัย พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระกรุเมืองสรรค์ ชัยนาท ซึ่งหากพิจารณาให้ดี ๆ จะพบว่ามีแบบเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบแตกต่างกัน ล้วนเป็นความรู้ที่ศึกษาไม่มีวันจบสิ้น
เมื่อถามถึงพระเครื่องที่รักและศรัทธาเป็นพิเศษ อาจารย์ สมาน คลองสาม เปิดรังหยิบออกมาโชว์ ล้วนเป็นสุดยอดพระเครื่องล้ำค่าของเมืองไทยทั้งสิ้น ก็มี พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่สีเขียวก้านมะลิปิดทองเก่า พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ ๖ ชั้นอกตลอด พระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่น ๑ เคลือบเชลแล็ก และไม่เคลือบเชลแล็ก พระหลวงพ่อปานพิมพ์ขี่ ไก่หางพวงเนื้อดิน พระวัดพลับพิมพ์วันทาเสมา พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร พิมพ์ ๗ ชั้นหูติ่ง ทุกองค์สภาพสวยสมบูรณ์ และแท้ดูง่าย
อาจารย์ สมาน คลองสาม ย้ำว่า พระทั้งหมดนี้ผมศรัทธามาก เพราะมีส่วนสำคัญช่วยให้ชื่อเสียงของ สมาน คลองสาม เป็นที่รู้จักของทุกคนในวงการทุกวันนี้ เคล็ดลับส่วนตัวในการดูพระของผมคือ พระสึกหน้าดูหลัง สึกหลังดูข้าง หากสึกหมดดูเนื้อดูแร่ ต้องจำให้แม่น
อาจารย์สมาน คลองสาม หรือ สมาน บุญเพ็ญ ยังฝากถึงนักนิยมพระรุ่นใหม่เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การเล่นพระให้เป็น ถ้าอยากให้เก่งจริง ๆ นั้น ควรเริ่มศึกษาทีละอย่างทีละประเภท ค้นคว้าให้ถ่องแท้เชี่ยวชาญไปเลย แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนสายหรือพัฒนาไปดูอย่างอื่น ถ้าเริ่มศึกษาพระเนื้อดิน พระกรุ ต้องรู้หมดว่ามีกี่กรุ กี่พิมพ์ เป็นแบบไหน พอชำนาญก็ขยับไป พระเนื้อชิน และเนื้อผง ก็จะทำให้เก่งรอบด้าน อย่าเล่นแบบ “จับฉ่าย” คือดูหมดส่องทุกอย่าง สุดท้ายจะไม่เก่งสักอย่างเดียว เสียเวลาเปล่า
เเละอาจารย์ สมาน คลองสาม กล่าวทิ้งช่วงท้ายว่า สิ่งสำคัญสำหรับเซียนพระรุ่นใหม่ ๆ หรือยุคหลัง ๆ ควรมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกตัญญูรู้คุณ คนไหนเคยให้ความรู้ ให้วิชาและสอนคุณมา แค่ครั้งเดียวก็ถือได้ว่าเป็นอาจารย์แล้ว อย่าลืมบุญคุณอาจารย์ อย่าทะนงตนว่าข้าเก่งกว่าใคร ถ้าทำได้จะทำให้คุณเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในวิชาชีพอย่างภาคภูมิใจ
ประวัติย่อๆของอาจาย์สมาน คลองสามสมาน คลองสาม กรรมการตัดสินพระเนื้อผงยอดนิยม
สมาน บุญเพ็ญ หรือที่รู้จักกันในนาม สมาน คลองสาม นับเป็นนักพระเครื่องผู้มีความรอบรู้ดูพระได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพระบูชา เทวรูป พระเนื้อดิน ชิน ผง รูปหล่อ พระกริ่ง พระปิดตา เหรียญพระคณาจารย์ เครื่องรางต่างๆ ฯลฯ
ด้วยประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมานานกว่า ๓๐ ปี จนได้รับความศรัทธาเชื่อถือจากบรรดานักสะสมพระเครื่องรางของขลังอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งจาก สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ให้เป็น กรรมการตัดสินพระชุดเนื้อผงยอดนิยม ในงานประกวดพระที่สมาคมให้การสนับสนุน
"ผมสนใจพระเครื่องมาตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสือ ต่อมาเมื่ออายุครบบวช ประมาณปี ๒๕๑๕ ผมได้บวชอยู่ที่วัดกลางคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พอดีท่านพระครูสิริพัฒนาภรณ์ (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาส ท่านมีพระสมเด็จ วัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย และพระกรุหลายองค์ ซึ่งล้วนเป็นพระแท้ ผมจึงได้อาศัยขอศึกษาพระทั้งหมดนี้จากหลวงพ่อ จนจำติดตาได้พอสมควร ที่สำคัญคือ เป็นการจุดประกายให้ผมเกิดความสนใจพระเครื่องมากขึ้น และคิดอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเซียนพระให้ได้" สมาน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวย่างเข้ามาสู่วงการพระ
หลังจากบวชครบ ๑ พรรษาแล้ว สมานได้ไปเป็นครูฝึกทหาร ที่ ขส.ทบ. อยู่ ๒ ปี จากนั้นได้ออกตระเวนหาพระแลกเปลี่ยนซื้อขายตามตลาดนัดทั่วไป เช่นที่สระบุรี ตรอกวัดบางบัว ตลาดกรุงสยาม สะพานใหม่ดอนเมือง ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านคนหนึ่งมีพระวัดปากน้ำหลายสิบองค์ จึงไปขอดูเขาบ่อยๆ จนจำพิมพ์ทรงองค์พระและเนื้อหามวลสารได้ เมื่อไปตามตลาดนัด พอพบเห็นพระวัดปากน้ำก็สามารถซื้อได้เองโดยไม่ผิดพลาด ต่อมาได้ศึกษาพระหลวงพ่อปาน พระคง ลำพูน และพระลำพูนพิมพ์อื่นๆ ซึ่งเมื่อมีพื้นฐานจากพระคงแล้ว พระพิมพ์อื่นๆ ก็ดูได้ไม่ยากนัก โดยจดจำตำหนิองค์พระให้แม่น พร้อมกับหาจุดสังเกตของพระพิมพ์นั้นๆ ให้เป็นจุดศึกษาของตัวเองให้ได้
สมาน คลองสาม กล่าวว่า "สมัยก่อน พระปลอม ทำอย่างง่ายๆ โดยขึ้นพิมพ์เอง ไม่ได้ถอดพิมพ์จากองค์พระแท้ เหมือนอย่างสมัยนี้ ฝีมือปลอมจึงยังห่างไกลกับของแท้มาก ใครได้เห็นพระแท้มาก่อน พอเห็นพระปลอมก็บอกได้ทันทีว่าเป็นพระปลอม ยิ่งมีโอกาสได้เห็นพระแท้มาก่อนมากๆ ก็ย่อมได้เปรียญคนอื่น เพราะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง"
เมื่อมีความรู้ดูพระได้แม่นขึ้นแล้ว สมาน คลองสาม ได้เปิดตู้พระขึ้นครั้งแรกที่ ตลาดนัดกรุงสยาม ตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งเป็นตลาดพระ ต่อมาไปเปิดร้านพระที่ตลาดนัดจตุจักร ยุคแรกเริ่ม ประมาณปี ๒๕๓๒ จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๔ ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน เมื่อคุณพยัพ คำพันธุ์ ได้ย้ายศูนย์พระจากห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มาเปิดศูนย์พระขึ้นที่ชั้น ๓ ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ต่อมาคือห้างพันธุ์ทิพย์ในทุกวันนี้) สมาน คลองสาม ก็ได้ย้ายตู้พระจากชั้น ๔ ลงมาอยู่ชั้น ๓ ในชมรมพระเครื่องมรดกไทย จนถึงทุกวันนี้
"หลักการดูพระของผม คือ ต้องจดจำจากพระแท้องค์จริง โดยซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีหลักประกันพระแท้ หากเป็นพระปลอมต้องรับคืนพระคืนเงินทันที ซึ่งทางร้านผมถือหลักการอันนี้อย่างมั่นคง ด้วยความซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่มีพระเครื่องอยู่ในครอบครอง เมื่อเอาพระไปสอบถามเซียนพระว่าแท้หรือไม่ บางคนอาจจะไม่ยอมดูให้ หากไม่มีการซื้อขายกัน แต่ถ้ามาหาผม ก็จะบอกความจริงให้เลยว่า เป็นพระแท้หรือพระปลอม แม้ว่าจะไม่เปิดราคาขายพระให้ผมก็ตาม ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน ความเอื้ออาทรต่อกันเช่นนี้ ทำให้ผมได้ซื้อพระแท้มาแล้วหลายองค์" สมาน คลองสาม บอกกล่าวถึงแนวปฏิบัติของตัวเอง
สำหรับการหาซื้อพระเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่องตลอดมา จนทำให้เวลานี้ที่ร้านสมาน คลองสาม มีพระเครื่องบริการอย่างหลากหลายจำนวนมาก สมาน คลองสาม บอกว่า "ในอดีตที่ผ่านมา ผมตระเวนหาซื้อพระจากต่างจังหวัดทั่วทุกแห่งหน กว่า ๒๐ ปี เรียกว่า ผมเติบโตมาจากที่นั่น ทำให้ผมมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมาย เมื่อเขาได้พระอะไรดีก็จะส่งต่อมาให้ผม เพราะรู้ว่า ถ้าเป็นพระแท้ดูง่าย ผมจะซื้อทันที ในราคาที่เป็นธรรมที่สุด ไม่ใช่ไปกดราคาเขา เมื่อเห็นว่าเราซื้อพระให้ราคาดี ต่อไปเมื่อเขาได้พระอะไรดีมาอีก เขาก็จะส่งต่อมาให้เราทันที ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผมมีพระเข้าร้านอยู่เสมอๆ"
มาถึงทุกวันนี้ สมาน คลองสาม มีพระหลักยอดนิยมอยู่ในครอบครองมากมาย โดยเฉพาะพระสมเด็จ เกศไชโย พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมคม พระหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ฯลฯ จะเรียกว่าเป็นสายตรงพระเนื้อผงยอดนิยมก็ได้ จนได้รับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินพระชุดนี้
ขณะเดียวกัน สมาน คลองสาม ยังได้เขียนบทความเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง ชี้แนะวิธีศึกษาจุดตำหนิขององค์พระต่างๆ ลงในนิตยสารพระเครื่อง "ศึกษาและสะสม" มาแล้วหลายเรื่องด้วยกัน
สมาน คลองสาม แนะนำให้คนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจสะสมพระเครื่องว่า "ก่อนอื่นต้องหมั่นดูภาพพระต่างๆ จากหนังสือพระเครื่องที่เชื่อถือได้ ซึ่งต้องกลั่นกรองก่อนว่าเป็นหนังสือที่มีแต่ภาพพระเครื่องแท้ เพราะทุกวันนี้มีหนังสือพระบางฉบับลงภาพพระไม่แท้ก็มี การได้ดูภาพพระแท้ต่างๆ จะทำให้จดจำพิมพ์ทรงองค์พระได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เรียกชื่อพระ กรุ หรือหลวงพ่อผู้สร้างผู้ปลุกเสกได้อย่างถูกต้อง โดยดูคราวเดียวกันหลายๆ ภาพในพระพิมพ์เดียวกัน ดูตำหนิหลายๆ องค์ที่เหมือนกัน พร้อมทั้งหาจุดสังเกตศึกษาของตัวเองเอาไว้ด้วย เพราะพระทุกองค์มีจุดตำหนิให้ได้ศึกษามากมาย ในหนังสือพระส่วนใหญ่จึงไม่ได้ลงจุดตำหนิให้ไว้จนหมดสิ้น เราต้องจดจำเอาเองบ้าง เมื่อได้พบเห็นพระองค์จริงก็จะพิจารณาได้ว่าเป็นพระแท้หรือปลอม ที่สำคัญคือ ต้องขยันหมั่นเพียรขวนขวายหาความรู้ทั้งจากตำรา หรือหนังสือพระ และจากท่านผู้รู้อื่นๆ ที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะการได้ศึกษาจากพระแท้องค์จริง จะเป็นเป้าหมายสูงสุดที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ได้มีโอกาสดูพระเป็นจนชำนาญยิ่งๆ ขึ้น พร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์เซียนพระตัวจริงได้อย่างแน่นอน
ที่ผ่านมา สมาน คลองสาม ได้แนะนำคนรุ่นน้องๆ ให้ดูพระจนเป็น มีความรู้ความชำนาญจนเป็นเซียนพระชื่อดังไปแล้วหลายคน ก็ด้วยหลักการเดียวกันนี้ พร้อมทั้งได้สอนว่า ต้องมีคุณธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตจริงใจต่อลูกค้าทุกคน ถึงจะยืนอยู่ได้ในวงการพระ ต้องเล่นแต่พระแท้ อย่าเอาพระปลอมไปหลอกขายเขา เพราะจะหมดความน่าเชื่อถือ เสียอนาคตทันที เหมือนงูกินหาง กินไปเรื่อยๆ ที่สุดก็ต้องกินตัวเองไปด้วย
สำหรับวงการพระในทุกวันนี้ สมาน คลองสาม มองว่า ยังยืนยงคงอยู่ได้อีกยาวนาน เพราะทุกวันนี้มีคนรุ่นใหม่หันมาสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น คนเหล่านี้มาด้วยความพร้อมในทุกด้าน มีเงินเป็นล้าน และกล้าซื้อพระแพง เพื่อเอากลับไปศึกษา โอกาสที่จะเรียนรู้พระจึงมีมากกว่า และรวดเร็วกว่าคนสมัยก่อน ซึ่งมีเงินเพียงหลักร้อย และใจไม่ถึง ไม่กล้าซื้อของแพง โอกาสเรียนรู้จึงค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ
นอกจากนี้การศึกษาเรื่องพระของคนรุ่นใหม่ ยังมีความพร้อมในด้านตำราพระ หนังสือพระ และร้านพระที่มีมาตรฐาน มีการรับประกันความแท้ขององค์พระที่ซื้อไป หากไม่ชอบใจหรือมีปัญหาก็สามารถคืนพระได้เสมอ ทำให้นักสะสมเกิดความเชื่อถือ จึงมั่นใจได้ว่า อนาคตของวงการพระจะก้าวไกลมั่นคงยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ร้าน สมาน คลองสาม อยู่ในชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร 0818377056,081992652 หรือที่ www.samanklongsam.com
ในวงการผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาในประเทศเมืองไทยท่านอาจารย์สมาน คลองสาม หรือ สมาน บุญเพ็ญ ถือว่าจัดอยู่ชั้นแนวหน้าในฐานะ เซียนพระรุ่นใหญ่ และผู้เชี่ยวชาญพระเครื่องตัวจริง เสียงจริง ทุกครั้งหากมีการประกวดพระเครื่อง พระสวย-พระแท้งานใหญ่ ๆ ทั่วประเทศไทย มักปรากฏชื่ออาจารย์สมาน คลองสาม ผู้นี้เป็นหนึ่งในกรรมการชุด “พระเนื้อผงยอดนิยม” ของสมาคมผู้นิยมพระเครื่อง พระบูชาไทยด้วยเสมอ
อาจารย์ สมาน คลองสาม คลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง ๓๐ ปีกว่ามาแล้วนะ อาจารย์ สมาน คลองสาม บอกว่าผมคร่ำหวอดและคลุกคลีอยู่ในวงการพระเครื่อง พระบูชาและวัตถุมงคล ผมเล่นพระเพราะใจรัก ชอบศึกษาศิลปะและเข้าใจถึงคุณค่าวัตถุโบราณอย่างลึกซึ้ง สิ่งเหล่านี้เป็นมรดกไปจนชั่วลูกชั่วหลานของเรา สมาน คลองสาม หรือ เฮียหมาน ของน้อง ๆ ในวงการพระเครื่องเปิดฉากการสนทนา
ก่อนรำลึกความหลังให้ฟังว่า เดิมทีผมเป็น ช่างซ่อมรถยนต์ เปิดอู่เป็นกิจการของตัวเอง บังเอิญมี พี่เขยชื่นชอบพระ จุดนี้เองเป็นแรงบันดาลใจให้ อาจารย์ สมาน คลองสาม หันมาเป็นเซียนพระอย่างเต็มตัว และอาชีพการซื้อขายพระก็ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้สบาย แต่คุณจะต้องซื่อสัตย์ซื่อตรงต่อวิชาชีพ มีจริยธรรม คุณธรรม ด้วยนะ หากทำได้ ความเชื่อถือและศรัทธาก็จะมาเอง ตรงนี้สำคัญมาก
อาจารย์ สมาน คลองสาม กล่าวว่าแรกเริ่มคุณอยากเป็นเซียนพระ อยากเก่งเรื่องพระ จะต้องค้นหาตัวเองให้เจอ อย่างผมสนใจพระเนื้อผงยอดนิยม ก็ศึกษาและค้นคว้ามานานพอสมควร จนดูเป็นหมดทุกอย่างนะ เช่น ชุดเบญจภาคี สมเด็จวัดระฆังทุกพิมพ์ สมเด็จบางขุนพรหมทุกพิมพ์ สมเด็จเกศไชโยทุกพิมพ์ พระวัดปากน้ำทุกรุ่นทุกพิมพ์ พระหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ทุกรุ่นทุกพิมพ์ หลังจากชำนาญพระเนื้อผงทุกประเภทแล้ว ก็หันไปศึกษาพระเนื้อดินอย่าง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระกำแพงเนื้อดิน สุโขทัย พิษณุโลก สุพรรณบุรี พระกรุเมืองสรรค์ ชัยนาท ซึ่งหากพิจารณาให้ดี ๆ จะพบว่ามีแบบเนื้อละเอียดและเนื้อหยาบแตกต่างกัน ล้วนเป็นความรู้ที่ศึกษาไม่มีวันจบสิ้น
เมื่อถามถึงพระเครื่องที่รักและศรัทธาเป็นพิเศษ อาจารย์ สมาน คลองสาม เปิดรังหยิบออกมาโชว์ ล้วนเป็นสุดยอดพระเครื่องล้ำค่าของเมืองไทยทั้งสิ้น ก็มี พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่สีเขียวก้านมะลิปิดทองเก่า พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ ๖ ชั้นอกตลอด พระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่น ๑ เคลือบเชลแล็ก และไม่เคลือบเชลแล็ก พระหลวงพ่อปานพิมพ์ขี่ ไก่หางพวงเนื้อดิน พระวัดพลับพิมพ์วันทาเสมา พระสมเด็จหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร พิมพ์ ๗ ชั้นหูติ่ง ทุกองค์สภาพสวยสมบูรณ์ และแท้ดูง่าย
อาจารย์ สมาน คลองสาม ย้ำว่า พระทั้งหมดนี้ผมศรัทธามาก เพราะมีส่วนสำคัญช่วยให้ชื่อเสียงของ สมาน คลองสาม เป็นที่รู้จักของทุกคนในวงการทุกวันนี้ เคล็ดลับส่วนตัวในการดูพระของผมคือ พระสึกหน้าดูหลัง สึกหลังดูข้าง หากสึกหมดดูเนื้อดูแร่ ต้องจำให้แม่น
อาจารย์สมาน คลองสาม หรือ สมาน บุญเพ็ญ ยังฝากถึงนักนิยมพระรุ่นใหม่เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า การเล่นพระให้เป็น ถ้าอยากให้เก่งจริง ๆ นั้น ควรเริ่มศึกษาทีละอย่างทีละประเภท ค้นคว้าให้ถ่องแท้เชี่ยวชาญไปเลย แล้วค่อย ๆ เปลี่ยนสายหรือพัฒนาไปดูอย่างอื่น ถ้าเริ่มศึกษาพระเนื้อดิน พระกรุ ต้องรู้หมดว่ามีกี่กรุ กี่พิมพ์ เป็นแบบไหน พอชำนาญก็ขยับไป พระเนื้อชิน และเนื้อผง ก็จะทำให้เก่งรอบด้าน อย่าเล่นแบบ “จับฉ่าย” คือดูหมดส่องทุกอย่าง สุดท้ายจะไม่เก่งสักอย่างเดียว เสียเวลาเปล่า
เเละอาจารย์ สมาน คลองสาม กล่าวทิ้งช่วงท้ายว่า สิ่งสำคัญสำหรับเซียนพระรุ่นใหม่ ๆ หรือยุคหลัง ๆ ควรมีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกตัญญูรู้คุณ คนไหนเคยให้ความรู้ ให้วิชาและสอนคุณมา แค่ครั้งเดียวก็ถือได้ว่าเป็นอาจารย์แล้ว อย่าลืมบุญคุณอาจารย์ อย่าทะนงตนว่าข้าเก่งกว่าใคร ถ้าทำได้จะทำให้คุณเจริญรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในวิชาชีพอย่างภาคภูมิใจ
ประวัติย่อๆของอาจาย์สมาน คลองสามสมาน คลองสาม กรรมการตัดสินพระเนื้อผงยอดนิยม
สมาน บุญเพ็ญ หรือที่รู้จักกันในนาม สมาน คลองสาม นับเป็นนักพระเครื่องผู้มีความรอบรู้ดูพระได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพระบูชา เทวรูป พระเนื้อดิน ชิน ผง รูปหล่อ พระกริ่ง พระปิดตา เหรียญพระคณาจารย์ เครื่องรางต่างๆ ฯลฯ
ด้วยประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมานานกว่า ๓๐ ปี จนได้รับความศรัทธาเชื่อถือจากบรรดานักสะสมพระเครื่องรางของขลังอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งจาก สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ให้เป็น กรรมการตัดสินพระชุดเนื้อผงยอดนิยม ในงานประกวดพระที่สมาคมให้การสนับสนุน
"ผมสนใจพระเครื่องมาตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสือ ต่อมาเมื่ออายุครบบวช ประมาณปี ๒๕๑๕ ผมได้บวชอยู่ที่วัดกลางคลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พอดีท่านพระครูสิริพัฒนาภรณ์ (หลวงพ่อเล็ก) เจ้าอาวาส ท่านมีพระสมเด็จ วัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย และพระกรุหลายองค์ ซึ่งล้วนเป็นพระแท้ ผมจึงได้อาศัยขอศึกษาพระทั้งหมดนี้จากหลวงพ่อ จนจำติดตาได้พอสมควร ที่สำคัญคือ เป็นการจุดประกายให้ผมเกิดความสนใจพระเครื่องมากขึ้น และคิดอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งจะต้องเป็นเซียนพระให้ได้" สมาน กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวย่างเข้ามาสู่วงการพระ
หลังจากบวชครบ ๑ พรรษาแล้ว สมานได้ไปเป็นครูฝึกทหาร ที่ ขส.ทบ. อยู่ ๒ ปี จากนั้นได้ออกตระเวนหาพระแลกเปลี่ยนซื้อขายตามตลาดนัดทั่วไป เช่นที่สระบุรี ตรอกวัดบางบัว ตลาดกรุงสยาม สะพานใหม่ดอนเมือง ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านคนหนึ่งมีพระวัดปากน้ำหลายสิบองค์ จึงไปขอดูเขาบ่อยๆ จนจำพิมพ์ทรงองค์พระและเนื้อหามวลสารได้ เมื่อไปตามตลาดนัด พอพบเห็นพระวัดปากน้ำก็สามารถซื้อได้เองโดยไม่ผิดพลาด ต่อมาได้ศึกษาพระหลวงพ่อปาน พระคง ลำพูน และพระลำพูนพิมพ์อื่นๆ ซึ่งเมื่อมีพื้นฐานจากพระคงแล้ว พระพิมพ์อื่นๆ ก็ดูได้ไม่ยากนัก โดยจดจำตำหนิองค์พระให้แม่น พร้อมกับหาจุดสังเกตของพระพิมพ์นั้นๆ ให้เป็นจุดศึกษาของตัวเองให้ได้
สมาน คลองสาม กล่าวว่า "สมัยก่อน พระปลอม ทำอย่างง่ายๆ โดยขึ้นพิมพ์เอง ไม่ได้ถอดพิมพ์จากองค์พระแท้ เหมือนอย่างสมัยนี้ ฝีมือปลอมจึงยังห่างไกลกับของแท้มาก ใครได้เห็นพระแท้มาก่อน พอเห็นพระปลอมก็บอกได้ทันทีว่าเป็นพระปลอม ยิ่งมีโอกาสได้เห็นพระแท้มาก่อนมากๆ ก็ย่อมได้เปรียญคนอื่น เพราะสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง"
เมื่อมีความรู้ดูพระได้แม่นขึ้นแล้ว สมาน คลองสาม ได้เปิดตู้พระขึ้นครั้งแรกที่ ตลาดนัดกรุงสยาม ตลาดใหม่ดอนเมือง ซึ่งเป็นตลาดพระ ต่อมาไปเปิดร้านพระที่ตลาดนัดจตุจักร ยุคแรกเริ่ม ประมาณปี ๒๕๓๒ จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่ชั้น ๔ ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน เมื่อคุณพยัพ คำพันธุ์ ได้ย้ายศูนย์พระจากห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน มาเปิดศูนย์พระขึ้นที่ชั้น ๓ ห้างบางลำภู งามวงศ์วาน (ต่อมาคือห้างพันธุ์ทิพย์ในทุกวันนี้) สมาน คลองสาม ก็ได้ย้ายตู้พระจากชั้น ๔ ลงมาอยู่ชั้น ๓ ในชมรมพระเครื่องมรดกไทย จนถึงทุกวันนี้
"หลักการดูพระของผม คือ ต้องจดจำจากพระแท้องค์จริง โดยซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีหลักประกันพระแท้ หากเป็นพระปลอมต้องรับคืนพระคืนเงินทันที ซึ่งทางร้านผมถือหลักการอันนี้อย่างมั่นคง ด้วยความซื่อสัตย์จริงใจต่อลูกค้าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่มีพระเครื่องอยู่ในครอบครอง เมื่อเอาพระไปสอบถามเซียนพระว่าแท้หรือไม่ บางคนอาจจะไม่ยอมดูให้ หากไม่มีการซื้อขายกัน แต่ถ้ามาหาผม ก็จะบอกความจริงให้เลยว่า เป็นพระแท้หรือพระปลอม แม้ว่าจะไม่เปิดราคาขายพระให้ผมก็ตาม ถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน ความเอื้ออาทรต่อกันเช่นนี้ ทำให้ผมได้ซื้อพระแท้มาแล้วหลายองค์" สมาน คลองสาม บอกกล่าวถึงแนวปฏิบัติของตัวเอง
สำหรับการหาซื้อพระเข้าร้านได้อย่างต่อเนื่องตลอดมา จนทำให้เวลานี้ที่ร้านสมาน คลองสาม มีพระเครื่องบริการอย่างหลากหลายจำนวนมาก สมาน คลองสาม บอกว่า "ในอดีตที่ผ่านมา ผมตระเวนหาซื้อพระจากต่างจังหวัดทั่วทุกแห่งหน กว่า ๒๐ ปี เรียกว่า ผมเติบโตมาจากที่นั่น ทำให้ผมมีพรรคพวกเพื่อนฝูงมากมาย เมื่อเขาได้พระอะไรดีก็จะส่งต่อมาให้ผม เพราะรู้ว่า ถ้าเป็นพระแท้ดูง่าย ผมจะซื้อทันที ในราคาที่เป็นธรรมที่สุด ไม่ใช่ไปกดราคาเขา เมื่อเห็นว่าเราซื้อพระให้ราคาดี ต่อไปเมื่อเขาได้พระอะไรดีมาอีก เขาก็จะส่งต่อมาให้เราทันที ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ผมมีพระเข้าร้านอยู่เสมอๆ"
มาถึงทุกวันนี้ สมาน คลองสาม มีพระหลักยอดนิยมอยู่ในครอบครองมากมาย โดยเฉพาะพระสมเด็จ เกศไชโย พระหลวงพ่อปาน วัดบางนมคม พระหลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร ฯลฯ จะเรียกว่าเป็นสายตรงพระเนื้อผงยอดนิยมก็ได้ จนได้รับหน้าที่เป็นกรรมการตัดสินพระชุดนี้
ขณะเดียวกัน สมาน คลองสาม ยังได้เขียนบทความเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับพระเครื่อง ชี้แนะวิธีศึกษาจุดตำหนิขององค์พระต่างๆ ลงในนิตยสารพระเครื่อง "ศึกษาและสะสม" มาแล้วหลายเรื่องด้วยกัน
สมาน คลองสาม แนะนำให้คนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจสะสมพระเครื่องว่า "ก่อนอื่นต้องหมั่นดูภาพพระต่างๆ จากหนังสือพระเครื่องที่เชื่อถือได้ ซึ่งต้องกลั่นกรองก่อนว่าเป็นหนังสือที่มีแต่ภาพพระเครื่องแท้ เพราะทุกวันนี้มีหนังสือพระบางฉบับลงภาพพระไม่แท้ก็มี การได้ดูภาพพระแท้ต่างๆ จะทำให้จดจำพิมพ์ทรงองค์พระได้ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็เรียกชื่อพระ กรุ หรือหลวงพ่อผู้สร้างผู้ปลุกเสกได้อย่างถูกต้อง โดยดูคราวเดียวกันหลายๆ ภาพในพระพิมพ์เดียวกัน ดูตำหนิหลายๆ องค์ที่เหมือนกัน พร้อมทั้งหาจุดสังเกตศึกษาของตัวเองเอาไว้ด้วย เพราะพระทุกองค์มีจุดตำหนิให้ได้ศึกษามากมาย ในหนังสือพระส่วนใหญ่จึงไม่ได้ลงจุดตำหนิให้ไว้จนหมดสิ้น เราต้องจดจำเอาเองบ้าง เมื่อได้พบเห็นพระองค์จริงก็จะพิจารณาได้ว่าเป็นพระแท้หรือปลอม ที่สำคัญคือ ต้องขยันหมั่นเพียรขวนขวายหาความรู้ทั้งจากตำรา หรือหนังสือพระ และจากท่านผู้รู้อื่นๆ ที่เชื่อถือได้ โดยเฉพาะการได้ศึกษาจากพระแท้องค์จริง จะเป็นเป้าหมายสูงสุดที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ได้มีโอกาสดูพระเป็นจนชำนาญยิ่งๆ ขึ้น พร้อมที่จะก้าวขึ้นสู่บัลลังก์เซียนพระตัวจริงได้อย่างแน่นอน
ที่ผ่านมา สมาน คลองสาม ได้แนะนำคนรุ่นน้องๆ ให้ดูพระจนเป็น มีความรู้ความชำนาญจนเป็นเซียนพระชื่อดังไปแล้วหลายคน ก็ด้วยหลักการเดียวกันนี้ พร้อมทั้งได้สอนว่า ต้องมีคุณธรรม และความซื่อสัตย์สุจริตจริงใจต่อลูกค้าทุกคน ถึงจะยืนอยู่ได้ในวงการพระ ต้องเล่นแต่พระแท้ อย่าเอาพระปลอมไปหลอกขายเขา เพราะจะหมดความน่าเชื่อถือ เสียอนาคตทันที เหมือนงูกินหาง กินไปเรื่อยๆ ที่สุดก็ต้องกินตัวเองไปด้วย
สำหรับวงการพระในทุกวันนี้ สมาน คลองสาม มองว่า ยังยืนยงคงอยู่ได้อีกยาวนาน เพราะทุกวันนี้มีคนรุ่นใหม่หันมาสะสมพระเครื่องกันมากขึ้น คนเหล่านี้มาด้วยความพร้อมในทุกด้าน มีเงินเป็นล้าน และกล้าซื้อพระแพง เพื่อเอากลับไปศึกษา โอกาสที่จะเรียนรู้พระจึงมีมากกว่า และรวดเร็วกว่าคนสมัยก่อน ซึ่งมีเงินเพียงหลักร้อย และใจไม่ถึง ไม่กล้าซื้อของแพง โอกาสเรียนรู้จึงค่อยเป็นค่อยไปอย่างช้าๆ
นอกจากนี้การศึกษาเรื่องพระของคนรุ่นใหม่ ยังมีความพร้อมในด้านตำราพระ หนังสือพระ และร้านพระที่มีมาตรฐาน มีการรับประกันความแท้ขององค์พระที่ซื้อไป หากไม่ชอบใจหรือมีปัญหาก็สามารถคืนพระได้เสมอ ทำให้นักสะสมเกิดความเชื่อถือ จึงมั่นใจได้ว่า อนาคตของวงการพระจะก้าวไกลมั่นคงยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
ร้าน สมาน คลองสาม อยู่ในชมรมพระเครื่องมรดกไทย ชั้น ๓ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน โทร 0818377056,081992652 หรือที่ www.samanklongsam.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
กรุณาใช้คำสุภาพเเละไม่ใช้คำที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเเก่ส่วนรวมเเละบุคคลอื่นขอบคุณครับ